
คำแนะนำการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อนให้เหมาะกับการใช้งานในบ้าน
การเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่น สำหรับใช้งานในบ้าน ควรคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น ประเภทเครื่องทำน้ำอุ่น ความปลอดภัย และกำลังไฟฟ้าที่บ้านรองรับ การเลือกซื้อไม่ใช่เพียงแค่ดูที่ราคาเท่านั้น เพราะหากเลือกไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาการใช้งาน หรือเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นในระยะยาว โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นสำหรับใช้งานในบ้าน ควรคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น ประเภทเครื่องทำน้ำอุ่น ความปลอดภัย และกำลังไฟฟ้าที่บ้านรองรับ การเลือกซื้อไม่ใช่เพียงแค่ดูที่ราคาเท่านั้น เพราะหากเลือกไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาการใช้งาน หรือเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นในระยะยาว โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรก
ปัจจุบันเครื่องทำในปัจจุบัน “การเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่น” ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวหรือช่วงเช้าที่อากาศเย็น การเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นที่ดี ไม่เพียงแค่เรื่องความร้อน แต่ยังต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ระบบไฟฟ้า ความปลอดภัย และลักษณะการใช้งานของแต่ละครอบครัว เครื่องทำน้ำอุ่นที่คุณเลือกมีระบบควบคุมอุณหภูมิ และสามารถติดตั้งได้สะดวกในพื้นที่ของคุณ การเลือกอย่างเหมาะสมตั้งแต่แรกจะช่วยประหยัดทั้งค่าใช้จ่าย ค่าซ่อมบำรุง และช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานในระยะยาว
ประเภทเครื่องทำน้ำอุ่น
ประเภทเครื่องทำน้ำอุ่น เลือกประเภทเครื่องให้ตรงกับการใช้งาน เครื่องทำน้ำอุ่นน้ำร้อนมีหลายประเภทหลักๆ ได้แก่
1.เครื่องทำน้ำอุ่นแบบทันที (Instant Water Heater)
– ทำงานโดยอุ่นน้ำทันทีเมื่อเปิดใช้งาน ใช้งานง่าย เหมาะกับบ้านที่ใช้ เฉพาะเวลาสั้นๆ เช่น อาบน้ำครั้งละไม่มาก
ข้อดี : ประหยัดพื้นที่ ราคาย่อมเยาว์ ติดตั้งง่าย
ข้อควรระวัง : หากแรงดันน้ำไม่คงที่ อุณหภูมิน้ำอาจไม่นิ่ง
2.เครื่องทำน้ำร้อนแบบหม้อต้ม (Storage Water Heater)
– มีถังเก็บน้ำร้อน เหมาะกับการใช้งานหลายคนพร้อมกัน โดยเฉพาะบ้านที่มีสมาชิกหลายคนใช้น้ำพร้อมกัน เช่น ใช้ในอ่างอาบน้ำ
ข้อดี : น้ำร้อนสม่ำเสมอ ปรับอุณหภูมิได้แม่นยำ ใช้กับอ่างอาบน้ำได้
ข้อควรระวัง : เปลืองไฟและใช้พื้นที่มากขึ้น
3.เครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ หรือฮีทปั๊ม
– เป็นระบบประหยัดพลังงาน เหมาะกับบ้านที่ใช้น้ำร้อนจำนวนมาก เช่น บ้านพักตากอากาศหรือรีสอร์ตบ้านที่มีสมาชิกหลายคน
ข้อดี : ประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าไฟฟ้าระยะยาว
ข้อควรระวัง : ต้องการพื้นที่ติดตั้งที่แดดส่องถึง ต้องมีระบบสำรองสำหรับวันที่ไม่มีแดด ค่าติดตั้งเริ่มต้นค่อนข้างสูง
สิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนซื้อ
- ควรเลือกเครื่องที่ผ่าน มาตรฐาน มอก. เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
- ควรเช็ก แรงดันน้ำ ในบ้าน หากแรงดันต่ำ ให้เลือกเครื่องที่มีปั๊มน้ำในตัว
- ตรวจสอบระบบ ไฟฟ้าและสายดิน ต้องมีเบรกเกอร์กันไฟรั่ว
1.ตรวจสอบกำลังไฟที่รองรับในบ้าน
🔸 เครื่องทำน้ำอุ่นทั่วไปใช้กำลังไฟสูง (ประมาณ 3,500–6,000 วัตต์) ควรตรวจสอบว่า ระบบไฟฟ้าในบ้านสามารถรองรับได้หรือไม่ เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและปัญหาจากไฟตกไฟดับ
🔸 ควรติดตั้งสายดิน และเบรกเกอร์กันไฟรั่วโดยเฉพาะ (เช่น ELCB หรือ ELSD)
2.พิจารณาแรงดันน้ำ
🔸แรงดันน้ำที่เพียงพอสำคัญมาก
แรงดันน้ำต่ำอาจทำให้เครื่องทำน้ำอุ่นแบบทันทีทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และอาจทำให้เกิดปัญหาน้ำอุ่นไม่สม่ำเสมอหรือขัดข้องบ่อย
🔸 ประเภทของระบบเพิ่มแรงดันน้ำ
- ปั๊มน้ำแรงดันคงที่ (Pressure Tank/Constant Pressure Pump)
ปั๊มชนิดนี้ช่วยรักษาแรงดันน้ำให้สม่ำเสมอ แม้ระบบมีการใช้น้ำหลายจุด พร้อมกัน เช่น ฝักบัวและสุขภัณฑ์หลายอัน
- ปั๊มอัตโนมัติพร้อมถังแรงดัน (Pressure Tank + Pressure Switch)
ระบบนี้จะรองรับแรงดันคงที่ เมื่อความดันลดลง ปั๊มจะทำงาน เติมน้ำเข้าไปในถัง ช่วยให้การใช้งานเครื่องทำน้ำอุ่นไม่ขาดตอน
🔸 แรงดันน้ำไม่ดี = ประสบการณ์อาบน้ำแย่
ผู้ใช้งานหลายคนในฟอรัมต่างประเทศยืนยันว่า หากแรงดันน้ำในระบบไม่เสถียร จะส่งผลต่อประสบการณ์อาบน้ำ เช่น ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็นสลับกัน และอาจทำให้รู้สึกไม่สบาย
🔸 วิธีเช็กแรงดันน้ำเบื้องต้น
1. วัดแรงดันน้ำ ณ จุดกระจายน้ำ เช่น ฝักบัว (ควรมีค่าประมาณ 2–3 bar หรือ 30–45 PSI)
2. เปิดใช้น้ำพร้อมกันหลายจุด ตรวจสอบว่าแรงดันยังคงคงที่หรือไม่
3. หากแรงดันเปลี่ยนแปลงมาก ให้พิจารณาติดตั้งปั๊มน้ำแรงดันคงที่ หรือเปลี่ยนไปใช้เครื่องทำน้ำอุ่นที่มีระบบปั๊มน้ำในตัว
3.ความจุของเครื่อง (เฉพาะรุ่นหม้อต้ม)
🔸ควรเลือกตามจำนวนสมาชิกในบ้าน เช่น
บ้าน 1–2 คน : ถังขนาด 15–30 ลิตร
บ้าน 3–4 คน : ถังขนาด 50–100 ลิตร
มีอ่างอาบน้ำ : มากกว่า 100 ลิตร
4.ระบบความปลอดภัยต้องมาก่อน
🔸เครื่องผ่านมาตรฐาน มอก.
🔸ระบบตัดไฟอัตโนมัติ
🔸ตัวเครื่องกันน้ำระดับ IP25 หรือสูงกว่า
🔸ระบบควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ร้อนเกินไป
ดูมาตรฐาน มอก. ได้ที่ https://www.tisi.go.th
5.การรับประกันและบริการหลังการขาย
🔸การเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการรับประกันสินค้าและบริการหลังการขายจะเป็นตัวช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในระยะยาว แนะนำให้ตรวจสอบระยะเวลาการรับประกันอย่างละเอียด โดยเฉพาะส่วนสำคัญ เช่น หม้อต้ม (Tank), ฮีตเตอร์ (Heater), ระบบควบคุมความร้อน และแผงวงจร
🔸บางแบรนด์อาจให้การรับประกันตัวเครื่องนานถึง 5–10 ปี โดยมีบริการซ่อมฟรีถึงบ้าน หรือมีศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากหากเครื่องมีปัญหา การที่มีบริการ Call Center หรือช่องทางออนไลน์สำหรับติดต่อเคลมสินค้าก็ถือเป็นจุดแข็งที่ควรนำมาพิจารณาด้วย
🔸อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกัน เช่น เครื่องต้องติดตั้งโดยช่างที่ได้รับอนุญาตหรือไม่, ต้องลงทะเบียนรับประกันภายในกี่วันหลังซื้อ และมีข้อยกเว้นอะไรบ้าง การทราบรายละเอียดเหล่านี้ล่วงหน้าจะช่วยให้คุณใช้สิทธิ์ประกันได้เต็มที่หากเกิดปัญหาในอนาคต
สรุป
การเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่น ไม่ใช่แค่เลือกจากราคา แต่ควรดูจากคุณสมบัติ ความปลอดภัย และความเหมาะสมกับการใช้งานของบ้านคุณ หากคุณไม่แน่ใจ ควรปรึกษาช่างไฟฟ้ามืออาชีพก่อนติดตั้ง เพื่อให้ใช้งานได้ปลอดภัยในทุกฤดูกาล
เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำน้ำร้อน ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม https://www.fujikathailand.com/product-category/electric-shower-heater/